วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

10 อันดับ โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก

อยากไปกันบ้างไหม จะชวนอยู่แบบไม่เป็นสุข ในโรงแรมสวยซ่อนวิญญาณหลอน เฮี้ยนกันนิ่งๆ แบบผีอยากให้คนเห็น เอ็นจอยกันสักคืน ซ้อมหนีผีก่อนวันฮาโลวีนจะมาถึง! กับ 10 อันดับ โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก
โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก : 1. Langham Hotel, London
10 อันดับ โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก
โรงแรมแลงแฮม ตั้งอยู่ใน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่ใช้ต้อนรับแขกผู้มีชื่อเสียงก้องโลก เช่น George OrwellMark Twain และ Charles de Gaulle ทั้ง ยังเป็นที่สิงสถิตย์ของวิญญาณลี้ลับมากมาย บ้างสวมชุดโบราณสมัยวิคตอเรีย บ้างใส่เครื่องแบบทหารเยอรมัน หรือจะเป็นผีหมอซึ่งสังหารภรรยาตนเองก่อนฆ่าตัวตายตาม และมีแม้กระทั่งผีเชื้อพระวงศ์ วิญญาณ จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ซึ่งปรากฏกายหลอกหลอนที่ชั้นใต้ดิน ห้อง 333 ซึ่งถือเป็นห้องที่น่ากลัวที่สุด จากคำบอกเล่าของนักข่าว สำนัก BBC ที่เคยผงะ เพราะผีอยู่ตรงหน้า!
โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก : 2. The Russell Hotel, Sydney, Australia
โรงแรมรัสเซลล์ แห่ง เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เป็น โรงแรมผีสิง แห่งประวัติศาสตร์ที่กล่าวขวัญกันถึง ผีกะลาสีเรือสมัยยุคอาณานิคม แขกที่เข้าพัก ห้องหมายเลข 8 เล่าถึงประสบการณ์สุดหลอนว่า ผีกะลาสีจ้องมองพวกเขาจนหลับไม่ลง และปั่นประสาทด้วยการเดินไปเดินมาที่ระเบียง ก่อนหายตัวไปแบบหลอนๆ !
โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก : 3. Hotel del Coronado, San Diego, USA
โรงแรม del Coronado โรงแรมผีสิง สุดอลังการ ครอบคลุมพื้นที่ 28 เอเคอร์ บนชายฝั่งแปซิฟิก แห่ง ซานดิเอโก้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เห็นหรูหราแบบนี้ นี่แหละสถานก่อคดีสะเทือนขวัญอันลึกลับและยาวนาน นับตั้งแต่ปี 1892 ได้พบศพ เคที่ มอร์แกน นักพนันสาวชาวอเมริกัน ดับอนาถคาบันได ด้วยสภาพลูกปืนฝังกะโหลกศีรษะ ซึ่งยังสรุปไม่ได้ว่าคือฆาตรกรรมหรือฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นมา หลายเสียงของแขกที่มาพักเล่าว่า พบเห็นวิญญาณของเธอแต่งกายชุดสมัยวิคตอเรีย สีขาวปรากฏตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทางเดิน ห้องพัก หรือ ชายหาดซึ่งเป็นสถานที่โปรดของเธอ บางครั้งสุดหลอนถึงขั้นโหยหวนเสียงดัง แสงไฟในโรงแรมกระพริบวูววาบ และมีกลิ่นเขม่าควันรุนแรง แทนที่ ห้องพัก หมายเลข 3312 ที่เคที่เคยพักจะถูกปิด กลับมีราคาสูงเป็นพิเศษ แต่ปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนการใช้งาน เนื่องจากมีการขยายโรงแรมใหม่ ทีนี้แหละ! ไปอยู่ห้องไหนนะ!?
โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก : 4. Fairmont Banff Springs, Alberta, Canada
โรงแรมแฟร์มอนท์ แบนฟ์ สปริง โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก
โรงแรมแฟร์มอนท์ แบนฟ์ สปริง ฉากที่สวยงามแห่ง รัฐอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดา ขณะเดียวกันก็เป็นฉากอันสยดสยอง ตามตำนานที่กล่าวขานกันถึง ผี Sam Macauley อดีตพนักงานยกกระเป๋าวัยเกษียณ ที่แต่งตัวเต็มยศ คอยจับจ้องแขกผู้มาพัก เหมือนจะพยายามช่วยหิ้วสัมภาระ ราวกับว่ายังรักในหน้าที่! อีกหนึ่งวิญญาณเฮี้ยน ผีเจ้าสาว ซึ่งเสียชีวิตในคืนแต่งงาน จากการเดินลงบันไดแบบพลิกชะตาชีวิต เพราะกระโปรงเจ้ากรรมดันไปเกี่ยวเชิงเทียนจนไฟลุก ด้วยความตกใจและไม่ทันตั้งตัว เธอจึงกลิ้งตกบันไดคอหัก! สถิตย์ร่างฝังโรงแรมตั้งแต่วันนั้น!
โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก : 5. Ballygally Castle Hotel, Larne, Northern Ireland
โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก
โรงแรมบัลลี่กัลลี่ คาสเซิล แห่ง ไอร์แลนด์เหนือ เดิมเป็นปราสาทเก่าซึ่งเคยเกิดโศกนาฏกรรมสุดหลอน ของ  Isobel Shaw หญิงผู้ถูกคุมขังที่ปราสาทนี้ ในศตวรรษที่ 17 เพียงข้อหาให้กำเนิดเด็กหญิง แต่สามีต้องการบุตรชาย จึงสั่งอดอาหารเธอและลูกน้อย ด้วยความเศร้าเสียใจอย่างหนัก เธอจึงตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง พร้อมกอดทารกไว้แนบอกและกระโดดทิ้งดิ่งลงมาจากชั้นบนของปราสาท เป็นที่มาของความน่าสะพรึงของ ผีแม่ลูกอ่อน ที่เดินอุ้มลูก โอดครวญ ร่ำไห้ เคาะประตูตามห้องต่างๆ ช่างขนลุก!
โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก : 6. Hollywood Roosevelt Hotel, Hollywood, USA
โรงแรมฮอลลีวู้ด รูสเวลท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยได้รับรางวัล Academy Awards ในปี 1929 หลายห้องพักของโรงแรมมีรอยประทับฝ่ามือของซูเปอร์สตาร์ระดับฮอลีวู้ดจารึก ไว้มากมาย และความดังขั้นเซเลบไม่จบแค่นั้น ยังหลอนกันระดับฮอลลีวู้ด เมื่อ ผีมาริลีน มอนโรว แขก(เคย)ประจำที่นี่ ปรากฏตัวในกระจก ณ ห้องที่เธอเคยพัก แบบใครเห็นต้องเลียวหลัง! และสยองต่อด้วย ผีมอนท์โกเมอรี่ คลิฟท์ นักแสดงที่เคยพัก ห้อง 928 ขณะถ่ายทำหนัง From Here to Eternity วันดีคืนดี He ก็เดินไปเดินมาพร้อมท่องบท! ขยัน(หลอน)จริงคุณพี่!
โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก : 7. Hotel El Convento, San Juan, Puerto Rico
โรงแรม El Convento แห่ง เปอร์โตริโก โรงแรมผีสิง แห่งนี้ เดิมเป็นบ้านของหญิงผู้สูงศักดิ์ชาวสเปน Dona Ana ก่อน จะกลายเป็นกุฏิของแม่ชี และเคยปรับเป็นโรงแรมชั่วคราวในยุค 60 จนกระทั่งเปิดเป็นโรงแรมถาวรในปี 1995 บ่อยครั้งที่แขกผู้มาพักได้ยินเสียงแส้ฟาด และเห็นภาพชุดคลุมแม่ชีผ่านตาไป ขณะที่บางคนสยดสยองยิ่งกว่า เมื่อ ผี Dona Ana มาปลุกถึงเตียง เพียงเพราะว่าคุณนอนตื่นสาย!
โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก : 8. Hotel Burchianti, Florence, Italy
โรงแรม Burchianti เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี สถาน ที่ชิลล์ของบรรดาศิลปิน นักดนตรี นักการเมือง ในตอนต้น-ตอนกลางของศตวรรษที่ 20 และเป็นที่เลื่องลือของตำนานผี ที่แขกผู้มาพักเล่าว่าเห็นวิญญาณเด็กกระโดดลงมาที่ห้องโถงบริเวณทางเดินเข้า บ้าน และผีผู้หญิงนั่งถักนิตติ้งอยู่ที่เก้าอี้ สร้างความตกตะลึงแทบหยุดหายใจ!
โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก : 9. Stanley Hotel, Colorado, USA
โรงแรม แสตนลีย์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดให้บริการในปี 1909 เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์สยองขวัญ เดอะ ไชน์นิ่ง (The Shining) ดินแดนผีสิงทั้งในและนอกแผ่นฟิล์ม สั่นประสาทด้วยนานาผี ตั้งแต่ผีเด็กวิ่งเล่นยามค่ำคืน ผีผู้หญิงแข็งตายในห้องโถง จนถึงที่หลอนสุด ผี เอฟ.โอ.แสตนลีย์ และ ฟลอร่า สามี-ภรรยาซึ่งเป็นเจ้าของแรกของ โรงแรมผีสิง แห่งนี้ เล่ากันว่ามีคนเห็น วิญญาณแสตนลีย์เดินวนเวียนอยู่ที่ล็อบบี้ บาร์ และห้องบิลเลียด ขณะเดียวกันก็มีคนพบ ผีฟลอร่า นั่ง บรรเลงเปียโนอยู่ที่ห้องดนตรี ทุกครั้งที่ได้ยินเสียง มีแขกใจกล้าตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปหวังคลายความสงสัย แต่ถึงกลับหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อเปียโนยังคงบรรเลงโดยปราศจากผู้ใด!
โรงแรมผีสิงที่ดังที่สุดในโลก : 10. Grand Hyatt Hotel, Taipei, Taiwan
โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท ใจกลางย่านธุรกิจ แห่ง กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน เป็นที่รู้กันดีในฐานะ โรงแรมผีสิง สุดหลอน เล่ากันว่าโรงแรมนี้สร้างบนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นสถานกักกันทางการเมืองสมัย สงคราม และมีนักโทษถูกประหารเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่นั้นมาจึงเป็นที่สถิตย์ของผีสุดเฮี้ยน ล่องลอย หลอกหลอน จึงมีการขจัดวิญญาณร้ายด้วยการจัดการทางฮวงจุ้ยและบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่างๆ ตรงประตูทางเข้าโรงแรม

ที่มา : ข้อมูล : luxpresso.com เรียบเรียง : travel.mthai.com

สถานที่ผีดุที่สุดในไทย 10 อันดับ สถานที่สยองขวัญในประเทศไทย

แถวบ้านใครเอ่ย....

สถานที่ผีดุที่สุดในไทย

อันดับที่ 10 ในซอยวัชรพล

     เป็นหมู่บ้านร้างตั้งอยู่บนเนื้อที่ กว่า 100 ไร่ ชื่อหมู่บ้านปิยพร คนเก่าคนแก่ในพื้นที่เล่าว่า ที่ดินส่วนนี้เคยเป็นป่าช้ามาก่อน เจ้าของโครงการ ไม่ได้ทำพิธีบอกกล่าวขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง ดังนั้นพอเริ่มงานก่อสร้าง จึงพบกับอุปสรรคนานาประการ ต่อมามีคนงานเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุหลายคน ในเขตหมู่บ้านมีบึงใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง ก็มีเด็กตกไปตาย 2-3 คน ประกอบกับบ้านในโครงการ ไม่มีผู้สนใจอย่างที่ประเมินเอาไว้ จึงต้องยุติโครงการ กลายเป็นหมู่บ้านร้างกลางกรุง พร้อมกันนั้นก็มีเสียงเล่าลือว่า ผู้ที่เข้าไปในเขตหมู่บ้านยามวิกาล มักจะพบวิญญาณแสดงตัวหลอกหลอน เล่นเอาขวัญหนีดีฝ่อ ไม่บังอาจกล้ำกลายเข้าไปอีก

สถานที่ผีดุที่สุดในไทย

อันดับที่ 9 ในซอยวัชรพล

     เป็นบ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ ซึ่งยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ถูกทิ้งร้างค้างคาอยู่ในสภาพเดิม เวลากลางคืนดูน่ากลัวชวนขนลุกยิ่ง และว่ากันว่ามีคนพบเห็นวิญญาณของชายหญิงและเด็ก ปรากฏวูบวาบบ่อยๆ สาเหตุที่บ้านหรูหลังใหญ่ กลายเป็นบ้านร้าง เนื่องจากเจ้าของบ้านหลังนี้ พาครอบครัวขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด และประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตหมดทุกคน

สถานที่ผีดุที่สุดในไทย

อันดับที่ 8 โรงงานร้างอยู่ในอุตสาหกรรมบางปู (ฝั่งเดียวกับเมืองโบราณ)

     สถานที่อยู่สุดซอย 2 เมื่อก่อนนี้เป็นโรงงานทำรองเท้า ขณะที่กิจการกำลังดำเนินงานไปด้วยดี ได้เกิดอุบัติเหตุร้างแรง คือเครื่องปั้มลมเกิดระเบิดคนงานหลายคนเสียชีวิตสยอง นับตั้งแต่นั้นคนงานที่ทำงานอยู่ ถูกผีหลอกวิญญาณหลอน จนต้องทะยอยลาออกไปเรื่อยๆจนหมด กิจการประสบความวินาศ เจ้าของโรงงาน ยิงตัวตายในห้องทำงานชั้นบนของโรงงาน และกลายเป็นสถานที่รกร้างเรื่อยมา เล่าลือกันว่าผีดุมาก ปัจจุบันนี้ยังมีเศษรองเท้ากระจายเกลื่อนและปั้มลมมรณะก็ยังอยู่


สถานที่ผีดุที่สุดในไทย

อันดับที่ 7 วัดปราสาท จ.นนทบุรี

     วัดปราสาท จ.นนทบุรี เป็นวัดเก่าแก่โบราณ สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง เคยขุดพบกำแพงเมืองรอบอุโบสถอายุ 300 ปี ด้านหลังอุโบสถ มีคุ้มเก่าแก่ชำรุดทรุดโทรมว่ากันว่าเจ้าของสถานที่คือ พระนางอุษาวดีเทวี ชาวบ้านระแวกนั้นเรียกว่า "แม่" และ" เจ้าแม่ " เวลากลางคืน หากไปที่บริเวณคุ้มจะมีบรรยากาศวังเวงน่ากลัวมาก ผู้ใดไปแสดงกิริยาวาจาจ้วงจาบหยาบคาย ไม่เคารพผู้เป็นเจ้าของสถานที่ มักจะพบกับเหตุการณ์แปลกๆน่าขนหัวลุก


สถานที่ผีดุที่สุดในไทย

อันดับที่ 6 ในซอยมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ถ.พัฒนาการ

     ในซอยมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ถ.พัฒนาการ เป็นโรงงานร้าง เมื่อก่อนนี้เป็นโรงงานทำปากกา และเป็นโรงกลึงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 80 ไร่ เหตุที่กลายเป็นโรงงานร้าง ชำรุดทรุดโทรม มีวัชพืชขึ้นปกคลุมรกครึ้มเช่นทุกวันนี้ ว่ากันว่าเจ้าที่เจ้าทางแรง ระหว่างที่ดำเนินงานอยู่ มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหลายคน ผู้ลงทุนขาดทุนย่อยยับจนต้องเลิกกิจการ หากเดินเข้าไปในอาณาเขตโรงงานร้าง จะสัมผัสบรรยากาศยะเยือกผิดปกติ และเล่าลือกันว่าหากไปเคาะแท้งก์น้ำซึ่งตั้งอยู่ 3 ใบ 3 ครั้ง จะปรากฏเจ้าที่เจ้าทางออกมาให้เห็นทันที


สถานที่ผีดุที่สุดในไทย

อันดับที่ 5 รังสิตคลอง 13

     จากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร มีบ้านพักถูกไฟไหม้เกือบหมดทั้งหลัง แต่ยังเหลือซากบ้านอยู่ส่วนหนึ่ง ข้อมูลบางกระแสเล่าว่า มีผู้หญิงตายในไฟ บ้านหลังนี้อยู่ในสวนมะขามหวาน แต่ถูกทิ้งให้รกร้าง คนในระแวกใกล้เคียงต่างยืนยันกันว่าตอนกลางคืน จะได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องโหยหวน มาจากซากบ้านบ่อยๆ พร้อมกันนั้นเคยมีคนเห็นผีผู้หญิงใ นบริเวณซากบ้านด้วย


สถานที่ผีดุที่สุดในไทย

อันดับที่ 4 ในซอยรอดอนันต์ 1 ถ.สุขาภิบาล1

     เป็นบ้านร้างทรงไทยอยู่ริมบึง ห่างไกลจากบ้านอื่นๆ ในระแวกนั้นบริเวณบ้านรกครึ้มด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยคุณยายเจ้าของบ้าน เสียชีวิตที่บ้านหลังนี้ และน่าเชื่อว่า วิญญาณของคุณยายไม่ยอมไปผุดไปเกิด แต่ยังคงวนเวียนอยู่ในบ้าน จนกระทั่งลูกหลานไม่กล้าอยู่ ต่างแยกย้ายไปอยู่ที่อื่นหมด ปล่อยบ้านทิ้งร้างชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา และที่บ้านหลังนี้เล่าลือกันว่าผีดุนัก คนอยู่ระแวกใกล้เคียงเคยเห็นผีคุณยายมายืนชี้นิ้วอยู่ที่หน้าบ้านเมื่อมี เด็กๆ วิ่งเล่นอยู่ในบริเวณหน้าบ้าน เคยมีคนใจกล้าเข้าไปในบ้าน ได้ยินเสียงผู้หญิงแก่ๆขู่ตะคอก จนต้องเผ่นออกมาแทบไม่ทัน


สถานที่ผีดุที่สุดในไทย

อันดับที่ 3 ในซอยสายหยุด อู่รถเมลล์เก่า

     ที่นี่เป็นสุสานรถเมลล์หรือรถโดยสาร ประจำทางที่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนใช้การไม่ได้ ซากรถเมลล์แต่ละคันมีประวัติคนตายโหงคารถ ในสภาพสยดสยองมาแล้ว และเป็นที่เล่าลือกันว่า อยู่ดีๆไฟในรถกลับเปิดสว่างขึ้นมาเอง หรือมีคนมายืนโบกรถหน้าอู่ แท๊กซี่จะเข้าไปจอดรับก็หายไปบางครั้งมีคนวิ่งตัดหน้า และหายไปดื้อๆ


สถานที่ผีดุที่สุดในไทย

อันดับที่ 2 วัดมหาบุศย์ พระโขนง

     ที่วัดมหาบุศย์ ยังมีศาลย่านาคตั้งอยู่ สืบเนื่องมาจากตำนานรักของแม่นาคพระโขนง ที่รู้กันแพร่หลายเล่ากันว่า เมื่อผีแม่นาคอาลวาดหลอกหลอน จนชาวบ้านหาปกติสุขมิได้ เจ้าประคุณสมเด็จโต ( วัดระฆัง ) ได้มานำวิญญาณแม่นาคไป พร้อมกับกระดูกกระโหลกหน้าผาก แล้วอบรมสั่งสอนให้รักษาศีล ปฏิบัติธรรม นัยว่าแม่นาคเลื่อนภพเป็นเทพแล้ว หากยังมีผีวนเวียนที่วัดมหาบุศย์ คงมิใช่วิญญาณแม่นาคอย่างแน่นอน


สถานที่ผีดุที่สุดในไทย

อันดับที่ 1 ในซอยรามคำแหง 32

     ลึกเข้าไปในซอยรามคำแหง 32 ท่านจะพบบ้านทรงสเปนหลังหนึ่งรูปทรงสวยสง่าน่าอยู่ แต่บ้านนี้ไม่มีใครอยู่อาศัยนานกว่า 20 ปีแล้ว ปล่อยให้ทิ้งร้างเก่าทรุดโทรมอย่างน่าใจหาย ประวัติของบ้านมีว่าเจ้าของบ้านเป็นชาวต่างชาติ วันหนึ่งเจ้าของบ้านขับรถออกไปทำงานตามปกติ ที่บ้านมีสาวใช้อยู่เพียงคนเดียว คนร้ายไม่ทราบจำนวน ซึ่งคงมาแอบสังเกตการณ์นานพอสมควรได้ฉวยโอกาสเข้าปล้น และฆ่าสาวใช้ตายคาที่ นับตั้งแต่นั้นมักจะได้ยินเสียงผู้หญิง ร้องให้ช่วยดังโหยหวนน่าสยดสยอง และยังเห็นผู้หญิง (เข้าใจว่าเป็นสาวใช้ที่ถูกฆ่าตาย ) เดินวนเวียนวูบวาบอยู่ในบ้าน เจ้าของบ้านทนอยู่ไม่ไหวต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น เล่ากันว่าหลังจากนั้น มีคนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วย ดังมาจากบ้านร้างบ่อยๆ และมีคนเห็นผู้หญิงลึกลับยืนอยู่หน้าบ้านเป็นประจำเมื่อเข้าไปใกล้ก็หายไป 


ที่มา : http://www.zoneza.com/10-view4685.htm

10 อันดับผีไทยที่คนเห็นบ่อยที่สุด

เอาล่ะค่ะ วันนี้(วันเดียวกับโพสต์อื่นอ่ะแหละ)จะพามาดู 10 อันดับผีไทยที่คนเคยเห็นมากทีสุด
เรื่องผี

อันดับ 10 ผีห้องน้ำ ใครบ้านไหนบ้างหนอ ที่อาบน้ำในโอ่งอยู่ดีๆ แล้วผีดัน มาหลอกไม่ก็ขอกุศลตอนนั้นแล้วไม่กลัวอะและอับดับที่เกิดนั้นมักอยู่ในโรงแรม ไม่ก็หอเสมอ โดยทั่วไปผีตนนี้มักโผล่ผลุบๆ โผล่ๆ จู่ๆ ประตูห้องน้ำก็ปิดโดยไม่มีลม ได้ยินเสียงน้ำไหลเอย เสียงชักโครกเอย เอาเป็นว่าเราก็กลัวเหมือนกัน
อันดับที่ 9 ผีบ้านร้าง แถวบ้านพวกคุณ(บางคนนะคะ)มักจะมีบ้านๆหลังหนึ่งมีต้นไม้คลุมมีซากไม้เก่าๆ อยู่ หากแถวบ้านคุณมีลักษณะอย่างนั้นขอบอกว่าใช่เลย โดยปกติผีตนนี้มักจะโผล่แบบไม่ค่อยซ้ำแบบใครเท่าไร นั่นคือจะเห็นมีคนเดินไปเดินมาแถวบ้านนั้นเสมอ จะได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้อง เสียงเด็กร้องไห้หากคุณเจออย่างงั้นจะย้ายหนีหรืออยู่ต่อก็เชิญคะ
อันดับที่ 8 ผีข้างทาง ยามคุณกลับบ้านคนเดียวมันจะตามคุณมาเรื่อยๆยิ่งดึกยิ่งน่ากลัว 99% ของผีตนนี้มักจะถูกฆ่าเสมอ ผีตนนี้มักจะโผล่แบบสยองเอาเรื่องเหมือนกัน แบบว่า(สำหรับวินมอเตอร์ไซต์นะ)ผีตนนี้จะบอกให้ไปส่งที่บ้านแล้วก็.......
อันดับที่ 7 ผีญาติๆของคุณ หลังจากเผาเสร็จ 1-2 วัน นั่นแหละคือวันที่แผลงฤทธิ์แต่คุณอย่าคิดมาก(เหมือนเพลงของแดน-บีมอะ) ผีตนนี้มักปรากฎขึ้นมาเพื่อให้คุณรู้ว่า เขาต้องการให้คุณทำบุญไปให้
อันดับที่ 6 ผีเทพอารักขา(เทวดาที่หลายๆคนเชื่อว่าสิงสถิตตามต้นไม้)ผีแบบนี้ใครๆก็ชอบ ยิ่งออกรูปลักษณะแปลกๆ ยิ่งดี นั่นแหละชาวบ้านยิ่งขัดถูกันมัน
อันดับที่ 5 ผีจองเวรทั้งหลาย วิธีการหลอกของผีตนนี้สยองสุด ๆ มันจะทำให้คุณขนลุกพอ ๆ กัน แต่มันสยองสำหรับคนที่ดันไปจองเวรก่อนเค้าตาย แต่คนที่ไม่ได้ไปทำอะไรให้มันคับแค้นใจก็รอดไป การหลอกของผีตนนี้มักมีเป้าหมายคือ ฆ่าพวกที่ทำให้พวกเค้าเสียใจเท่านั้น
อันดับที่ 4 ผีของเก่า ๆ ที่คุณซื้อมา และ ที่สำคัญที่ทอปฮิตติดชาร์ตมากที่สุดคือ เตียงนอนและตู้ 1. เตียงนอนมันมักจะเริ่มจากที่คุณนอนไป 2-3 ชั่วโมงแล้วมันจะมานอนข้าง ๆ คุณ หรือไม่ก็ฉุดขาคุณ 2. ตู้ คุณลองเปิดตอนมืด ๆ ค่ำ ๆ สิ
อันดับที่ 3 ผีเด็กๆ คุณอย่าคิดนาๆว่าถึงเป็นผีเด็กนะแต่ทอปมาอยู่ที่3ได้นะความเฮี้ยนของเด็กมัก เริ่มจากความกุ๊กกิ๊กน่ารักเสมอ แล้วลิ้นก้อค่อยๆยาวขึ้นหรืออาจมีเลือดเต็มหน้า แล้วคุณก็เป็นลม
อันดับที่ 2 ผีที่วัด แน่นอนวัดคืออันดับ 2 ที่คุณจะเจอผีลองดูสิหันหน้าไปทางทิศตะวันตกหลังเมรุ แล้วก้มลอดระหว่างขาสิ
อันดับที่ 1 ผีโรงแรม ดาราหรือแม้กระทั่งคุณเองก้อเจอเช่นกัน โดยเริ่มจากคุณได้ยินเสียงเคาะประตู เมื่อคุณเปิดไปกลับไม่มีใครอยู่ หรือไม่ก็ผีผ่านหน้าต่างไปช้า ๆ ในห้องส่งกลิ่นเหม็น แน่นอนคุณต้องของเช็กเอาท์ทันที่หลังจากเกิดคืนแรก

ขอบคุณข้อมูลจาก FW Mail
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com

ที่มา :  http://horoscope.sanook.com/1189802/

10 สุดยอดผีดุจากทั่วโลก


 10 สุดยอดผีดุจากทั่วโลก


 จาก 10 ผีดัง คราวนี้ลองเปลี่ยนมาเป็น 10 สุดยอดผีดุบ้างนะค่ะ รับรองน่าตื่นเต้นไม่แพ้กันเลยค่ะ....



คืนฮาโลวีน ก็คงจะขาดเรื่องผีไปไม่ได้ ว่ากันด้วยเรื่องผีต่างประเทศ มาดูกันว่าจะน่ากลัวขนาดไหน ผีบางตัวใช่เอาแต่ แลบลิ้นหลอกผู้คน แต่บางตัวก็นำมาซึ่ง ความสยอง ความโชคร้าย และหายนะแก่ผู้ที่พบตัวมัน จนหลายคน ไม่อยากจะพบเจอพ วกมัน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


10 สุุดยอดผีดุจากทั่วโลก

อันดับ 10 ปรากฏการณ์แม่มดเบลล์ (The bell witch)

ที่ตั้ง เมืองอดัมส์ มลรัฐเทนเนสซี อเมริกา

         ในปี ค.ศ.1817 สถานที่แห่งนี้ ขึ้นชื่อปรากฏการณ์หลอนที่มีชื่อที่สุดในอเมริกา ผู้คนทุกสารทิศพากันหลั่งไหลมาชม รวมไปถึงประธานาธิบดีด้วย ซึ่งก็ไม่เคยผิดหวังทุกคนได้เห็นกันทั่วหน้า ซึ่งว่ากันว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากหญิงชราชื่อ เคท แบทส์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของครอบครัวเบลล์ เธอเจ็บแค้นมากเมื่อครอบครัวนี้โกงเธอในการซื้อขายที่ดิน ดังนั้นก่อนตาย เธอได้สาปแช่งว่าถ้าเธอเป็นผีฉันจะให้ดู และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ครอบครัวของเบลล์ต้องประสบเคราะห์กรรมต่างๆ นาๆ จากผีที่มองไม่เห็นไม่ว่าจะเป็น ข้าวของแตกกระจาย เข็มทิ่มตามร่างกาย นมหกเลอะเทอะ ดึงผ้าคลุมจากเตียง การทุบตี แถมเสียงหัวเราะสยอง แกล้งแบบสะใจ แม้กระทั่งตอนสมาชิกในครอบครัวตาย ผีตนนี้ยังไม่วายที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์ หัวเราะร้องเพลง อย่างเริงร่า และดังยาวนานจนผู้ร่วมพิธีศพคนสุดท้าย ออกจากงานฝังศพ

         แม้ทุกวันนี้ครอบครัวเบลล์จะหมดรุ่นไปแล้วเกือบ 200 ปี ก็ตาม แต่ทุกวันนี้วิญญาณยังปรากฏตัวอยู่ เนื่องจากมีผู้พบเห็น ปรากฏการณ์แปลกๆ ภายในถ้ำแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในบริเวณครั้งหนึ่งที่เคยเป็นสมบัติของเบลล์

10 สุุดยอดผีดุจากทั่วโลก

อันดับ 9 ผีที่บ้านเลขที่ 50 เบิร์กเลย์สแควร์ (50 Berkeley Square)

สถานที่ตั้ง บ้านเลขที่ 50 เบิร์กเลย์ สแควร์ กรุงลอนดอน

         ผีที่นี่ดุจริงๆ เพราะมันทำให้เหยื่อเคราะห์ร้ายต้องสังเวยให้กับมัน แม้ไม่มีใครทราบที่มาแต่หลายคน ต่างโดนมันฆ่า ถ้าใครก็ตามที่มานอนพักบ้านร้าง หลังนั้น เช่นในปี 1887 กะลาสีสองคนชื่อเอ็ดเวิร์ด บลันเดนและโรเบิร์ต มาร์ติน ได้อาศัย บ้านหลังนี้พักชั่วคราว และต่อมากลางคืนบลันเดนก็พบเห็นผี และสู้กับมัน ส่วนมาร์ตินหนีออกมาเพื่อแจ้งตำรวจ และเมื่อกลับมา ก็พบบลันเดน ตายอยู่บันไดชั้นล่างในสภาพคอหัก ดวงตาเบิกโพลง นอกจากนั้น จอร์จ แคนนิ่ง นายกรัฐมนตรีอังกฤษก็โดนด้วย และเสียชีวิตในปี 1827

ปัจจุบันคนละแวกแถวนั้น มักตกใจเสียงทุบ และเสียงกระแทกปึงปังในบางคืน

10 สุุดยอดผีดุจากทั่วโลก

อันดับ8 บ้านอมิตี้วิลล์ (Amityville House)

สถานที่พบเจอ บ้านเลขที่ 112 โอนอเวนิว อเมริกา

         บ้านอมิตี้วิลล์ โอนอเวนิว เป็นบ้านทรงดัทซ์ โคโลเนียล หน้าตาเหมือนโรงนาทรงสูงที่ที่สวยงามมากหลังหนึ่ง ถูกสร้างตั้งแต่ปี 1924 แต่เมื่อ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1974 เกิดการฆาตกรรมหมู่ครอบครัวหนึ่งจากนั้นเป็นต้นมาที่นี่ก็กลายเป็นบ้านผีดุไปในบัดดล โดยที่โด่งดังที่สุดคือกรณี ของครอบครัวของ จอร์จ ลัทซ์ก็อาศัยอยู่บ้านหลังนี้ และพบเหตุการณ์ประหลาดแทบทุกคืน ไม่ว่าจะเป็นเสียง รอยเท้า ผีอำ ฯลฯ นอกจากนั้น ไม่ว่า ใครหน้าไหนเอาเรื่องนี้มาแต่งเป็นนิยาย หรือทำเป็นหนังจะโดนคำสาป เห็นได้จาก เคยมีคนนำเรื่องอมิตี้วิลล์มาสร้างหนัง ปรากฏว่าหลายคนในกอง ถ่ายต่างประสบเคราะห์กรรมต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็น ปรากฏการณ์ลึกลับ เจ็บไข้ ได้ป่วย หรือแม้กระทั่งตายอย่างลึกลับ (ปัจจุบันเราสามารถหาดู เรื่องนี้จากหนังเรื่องผีทวงบ้านครับ) ระวังจะโดนคำสาบ!!

10 สุุดยอดผีดุจากทั่วโลก

อันดับ 7 เดอะ ฟลายอิ้ง ดัชท์แมน (Flying Dutchman)

สถานที่พบเจอ แหลม Good Hope ฮอลแลนด์ และท้องทะเลทั่วโลก (ไทยก็เคยเจอ)

         เป็นเรือปีศาจที่ปรากฏตัวให้เห็นบ่อยๆ ในทั่วโลกมาแล้วหลายร้อยปี เดิมคือ เรือ Flying Ducthman เป็นของกัปตัน Van Der Decken ที่นิสัยไม่ดี โดยเขาหายสาปสูญที่แหลม Good Hope ก่อนหายได้ตะโกนขึ้นว่า "ข้าจะยังคงวนเวียนอยู่ที่แหลมแห่งนี้ ถึงแม้ว่าข้าจะต้องล่องเรือ จนถึงวาระสุดท้ายของโลกก็ตาม" และนับจากนั้นเป็นต้นมา ผู้คนทั่วโลกก็พบเรือปีศาจแบบนี้ และว่ากันว่าเรือใด ที่เห็นเรือปีศาจนี้จะต้องรับความพินาศ โดยในปี 1881 คนประจำเรือเจ้าชายจอร์จที่ 5 เห็นเรือนี้ จากนั้นไม่นาน เขาก็พลัดตกเสากระโดงเรือตาย.... ทุกวันนี้ก็ยังมีคนกล่าวอ้างอยู่เสมอว่าเห็นเรือ ฟลายอิ้ง ดัทช์แมน ยังคงรอนแรมอยู่เดียวดาย กลางทะเล ด้วยรูปลักษณ์อันเศร้าโศก และสยดสยอง ริชาร์ด วากเนอร์ คีตกวีชื่อก้องโลกได้อาศัย ตำนานปีศาจนี้แต่งอุปรากร ที่มีชื่อว่า Der Fliegende Hollander

10 สุุดยอดผีดุจากทั่วโลก

อันดับ 6 วิญญาณที่โบลถ์บอร์ลีย์ (Borley Rectory)

สถานที่พบเจอ กรุงลอนดอนทางตะวันออกเฉียงเหนือ 60 ไมล์ แถบชานเมืองเอสเซกซ์ (ปัจจุบันโดนทุบทิ้งแล้ว)
เมื่อปี ค.ศ.1362

         นักบวชนิกายเบเนดิกทีน และแม่ชีจากสำนักชีในละแวกนั้น ถูกพ่อมดหมอผี และชาวบ้านที่งมงาย จับสองคนไปฆ่า โดยนักบวชถูกแขวนคอ ส่วนแม่ชีถูกฝังทั้งเป็น ภายในผนังของสำนักชี ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นโบสถ์แห่งบอร์เลย์ในปี 1863 และหลังจากนั้นเหตุการณ์ประหลาด ก็เกิดขึ้นต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นก้อนหินที่ขว้างไปโดยไม่รู้ที่มา รอยเท้าประหลาด เสียง และภาพหลอน ขนาดปรากฏตัวในตอนกลางวันแสกๆ เลยก็มี

          โดยปี 1929 เธอปรากฏตัวถี่ขึ้น และเริ่มเห็นเต็มตัว โดยในลักษณะแต่งกายเป็นชี และท่าทางใบหน้าเศร้าหมอง ร้องขอให้มี ผู้พบศพเธอเพื่อประกอบ พิธีทางศาสนา และมีผู้ถ่ายรูปเธอออกมาเพียบ จนกระทั่งคืนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1939 ก็เกิดเพลิงไหม้ ตอนเที่ยงคืน และเผาโบสถ์จนเหลือเพียง ซากและโบสถ์ก็โดนทุบทิ้ง จนผีไม่ปรากฏตัวออกมาอีกเลย

10 สุุดยอดผีดุจากทั่วโลก

อันดับ 5 วิญญาณสีชาด

สถานที่พบเจอ ฝรั่งเศส ??? กษัตริย์เฮนรีที่ 4

         วิญญาณสีชาดตนนี้ไม่มีที่มา แต่มันสำแดงตนเสมอในช่วงเปลี่ยนกษัตริย์ของฝรั่งเศส เป็นร่างของชายสูงใหญ่ ใส่เสื้อคลุมสีชาด มีเครายาวสีชาด เช่นกัน

         ร่างนี้ไปปรากฏต่อพระพักตร์ของกษัตริย์เฮนรีที่ 4 แห่งฝรั่งเศส ในคืนที 13 พฤษภาคม 1610 ในห้องพระบรรทม ของกษัตริย์เฮนรีเลยทีเดียว แล้วมันก็กล่าวคำพยากรณ์ว่า "พรุ่งนี้เจ้าจะต้องตาย" พระองค์ตกใจมาก และรีบเรียกตัวขุนนางผู้ใหญ่ มาหารือเพื่อหาทางแก้ไข และอีก 12 ชั่วโมงต่อมา เฮนรีก็ถูกผลักตกจากบัลลังก์จริง ตามคำพยากรณ์ เพราะฟรองซัวราวิลแย็ค ทำการรัฐประหาร นอกจากนี้วิญญาณตัวนี้ยังสำแดงตนให้นโปเลียน โปนา ปาร์ตเห็นถึง 4 ครั้ง และครั้งที่ 4 คือ คืนวันที่ 5 พฤษภาคม 1821 ก็เป็นวันตายของนโปเลียนนั้นเอง

10 สุุดยอดผีดุจากทั่วโลก

อันดับ 4 ผีชุดขาวแห่งเบอร์ลิน (Ghost White of The Berlin)

สถานที่พบเจอ เยอรมัน ฝรั่งเศส ??

         ว่ากันว่าเป็นวิญญาณของอันนา ซิโดว์ ภรรยาลับของกษัตริย์โจอาคิมที่ 2 ในศตวรรษที่ 16 ที่ถูกจับขังจนถึงแก่กรรม ซึ่งใครก็ตามที่ได้เห็นวิญญาณ หญิงสีขาวเมื่อไหร่คนในราชวงศ์นั้นจะประสบเคราะห์กรรม เช่นปี 1619 มหาดเล็กของกษัตริย์จอร์น ซิกมุนด์ เห็นร่างสีขาวก่อนที่จะตายโดยอุบัติเหตุ จากนั้นกษัตริย์จอห์น ซิกมุนด์ก็สวรรคต, นอกจากนั้นกษัตริย์หลายพระองค์ ก็เห็นวิญญาณนี้ปรากฏที่รัสเซีย ปารีส และครั้งสุดท้ายที่ปรากฏคือวันที่ 29 เมษายน 1945 ซึ่งเป็นวันล่มสลายของนาซีเยอรมัน ที่เบอร์ลินพอดี!!

10 สุุดยอดผีดุจากทั่วโลก

อันดับ 3 วิญญาณที่เรือควีนแมรี่ (Queen Mary)

สถานที่พบเจอ เรือควีนแมรี่(ปัจจุบันถูกจอดไว้ที่เมืองลองบีช โดยดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ โรงแรม)

         ควีนแมรี่เป็นเรือใหญ่มากลำหนึ่งในประวัติศาสตร์อังกฤษ เคยถูกนำมาใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วถูกปลดระวางในปี 1967 เพื่อนำไปทำโรงแรม ซึ่งมีเรื่องเล่ากันว่าถ้าใครตายในเรือแมรี่มีอันต้องเป็นผีเฝ้าเรือทุกตน โดยมีผู้พบเห็นผีนี้ตามจุดทั่วเรือ ในลักษณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรอยเท้าที่เปียกน้ำ เด็กน้อยตามหาแม่ และหายตัวไปต่อหน้า สตรีในชุดราตรีโบราณ ฯลฯ

10 สุุดยอดผีดุจากทั่วโลก

อันดับ 2 วิญญาณของพระนางแคทเธอรีน โฮวาร์ด (Catherine Howard)

สถานที่พบเจอ หอคอยลอนดอน ประเทศอังกฤษ

         แม้พระนางจะโดนสำเร็จโทษหลังอภิเษกกับพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ได้เพียง 8 เดือน ไปตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1542 แล้วก็ตาม ระเบียงของพระราชวัง แฮมตัน คอร์ท พาเลสทุกวันนี้ยังมีเสียงร้องโหยหวนในยามดึกเสมอ นอกจากนี้ยังสิงสู่อยู่ที่อีธอร์น มาเนอร์ ฮอลลิงบอร์น เค้นท์อีกด้วย

10 สุุดยอดผีดุจากทั่วโลก

อันดับ 1 วิญญาณของพระนางแอนน์ โบลีน (Anne Boleyn the headless Queen)

สถานที่พบเจอ หอคอยลอนดอน ประเทศอังกฤษ (รูปถ่ายนี้ถูกถ่ายในธันวาคม ที่ศาล Hampton ใกล้ลอนดอน)

         พระเจ้าเฮนรีที่ 8 นี้ช่างเป็นต้นเหตุสร้างเรื่องสยองจริงๆ เมื่อพระนางแอนน์ โบลีนพระมเหสีองค์ที่สองถูกสำเร็จโทษ 19 พฤษภาคม ปี 1536 โดยก่อน ตายนางกล่าวว่า "โอ้ ความตาย นำข้าให้หลับใหล พาข้าให้พักอย่างเงียบสงัด นำข้าไปสู่ผี.. ที่สุดแสนจะเงียบงัน ออกไปจากอกของข้าที่ห่วงหา อาทร ย่ำระฆังความตายที่เศร้าสร้อย ปล่อยให้มันก้องกังวาน"

         ว่ากันว่าวิญญาณของพระนางจะกลับมาที่ บลิคลิง ฮอลล์ ในนอร์ฟอล์ค ในวันครบรอบที่พระนางถูกสำเร็จโทษ ซึ่งสถานที่แห่งนั้น พระนางเคยใช้ชีวิตในวัยเยาว์ที่นั้นเลยผูกพันเป็นพิเศษ ซึ่งมีรายงานปรากฏวิญญาณของพระนาง ไปยังสถานที่ ประสูติไม่ว่างเว้น โดยผู้คนมักเห็นร่างของหญิงสูง ศักดิ์ปราศจากศีรษะ นั่งอยู่ในรถม้าที่ลากโดยม้าที่ปราศจากหัวสี่ตัว และคนขับ ซึ่งไม่มีหัวเช่นกัน รถม้าจะวิ่งช้าๆ ไปยังอาคารโบราณที่บลิงตันและ หายลับไปยังประตูหน้า นอกจากนี้พระนางยังปรากฏ อยู่ที่หอคอย แห่งลอนดอนอีกด้วย โดยผู้ใดที่อยู่ตรงข้ามพระนางจะพลอยได้พบหายนะไปด้วย เสียสิ้น โดยใครพบเจอคนนั้น อาจหัวใจวายตายในเวลาไม่นาน ไม่ก็เสียสติ


ที่มา: http://brightlives.th.88db.com/lifestyle/lifestyle_10ghost.htm

10 ผีดังจากทั่วโลก

เริ่มจาก อันดับ 10 เลยค่ะ รับรองว่า....เพื่อนๆ ต้องอยากรู้ ก็เป็นได้....


10 Kate Morgan 




เคที มอร์แกน 1865-1892 เป็นหญิงสาวสวยชาวอเมริกันที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพนันตัวยง ในวันที่เธอเสียชีวิตนั้นเธอเช็คอินเช่าห้องที่ โรงแรมซาน ดิเอโก คือ เดล โคโรนาโด (Hotel del Coronado) โรงแรมหรูรีสอร์ททรงวิคตอเรียซึ่งตั้งอยู่บนริมชายหาดเกาะโคโรนาโด (Coronado Island) แคลิฟอร์เนียทางใต้ของซานดิเอโก ซึ่งพึ่งเปิดใหม่เพียงสีปีก่อนที่เธอจะมาพักเท่านั้น โดยเธอมาพักตั้งแต่ 25 พฤศจิกายน 1892 และเธอก็ไม่เช็คเอาท์ออกอีกเลย เพราะเธอได้กลายเป็นศพเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 1892 ที่บันได สาเหตุจากลูกปืนฝังในกะโหลกศีรษะของเธอ หลายฝ่ายไม่สามารถสรุปได้ว่าเธอฆ่าตัวตายหรือถูกกันแน่ และนับจากนั้นเป็นต้นมามีรายงานมากมายจากแขกที่มาพักโรงแรมแห่งนี้ว่าได้พบเห็นวิญญาณของเธอ แต่งกายแบบวิคตอเรียสีขาวเดินไปทั่วโรงแรม อยู่ในห้องพักของโรงแรม หรือชายหาด(เพราะเธอชอบเดินชายหาด) นอกจากนี้เธอยังปรากฏตัวออกมาในรูปของเสียงร้องที่ดังโหยหวน แสงไฟวาบแวบ และกลิ่นหอมที่รุนแรงปัจจุบันโรงแรมซาน ดิเอโก คือ เดล โคโรนาโดโรงแรมที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในเมือง ที่นิยมมากแม้จะมีผีก็ตาม เพราะว่าที่นี้ใช้ผีเป็นจุดขาย ถึงขนาดประกาศหราอยู่กลางเว็บไซต์ และห้องพักที่เธออยู่นั้นคือห้อง 3312 ซึ่งมีราคาแพงเป็นพิเศษ แต่ต่อมาห้องนี้ได้ถูกเปลี่ยนแปลงเนื่องจากมีการขยายโรงแรมใหม่ ถ้าคุณอยากเห็นเธอก็เชิญคลิปยูธูปข้างล่างได้เลย 


9 Ghosts of the Stanley Hotel 




หากคุณอยู่โรงแรม เดอะ แสตนลีย์ ในพาร์ค เอสเตส รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ให้แนะนำดูภาพยนตร์เรื่อง “เดอะ ไชน์นิ่ง” (The Shining) ของแสตนลีย์ คูบริค ที่สร้างจากนิยายอันดับ 3 ของ สตีเผ่น คิง ตอนกลางคืนจะได้อารมณ์มาก โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงถึงเรื่องราวของครอบครัวทอร์เรนซ์ ที่ประกอบไปด้วย แจ๊ค นักเขียนผู้เคยติดเหล้าและมีประวัติทำร้ายลูกตัวเอง, เวนดี้ ภรรยาที่อ่อนโยน และ แดนนี่ ลูกชายที่มีสัมผัสพิเศษถึงสิ่งเหนือธรรมชาติ ซึ่งตัวแจ๊คพยายามเป็นสามีที่ดี เขาได้งานทำเป็นยามเฝ้าโรงแรมโอเวอร์ลุคยามไร้ผู้คน และที่นั้นเขาก็ได้พบว่าโรงแรมที่เขาเป็นยามแห่งนี้เป็นโรงแรมผีดุ!! แล้วภาพยนตร์เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับโรงแรมนี้ตรงไหนเหรอ ในตอนนั้นพี่คิงกำลังจะแต่งนิยายนี้เขากำลังโด่งดังจากนิยายสองเรื่องก่อนหน้า เขาเลยวางแผนจะแต่งนิยายที่มีฉากหลังน่ากลัวหน่อย เขาเลยออกเดินทางพร้อมครอบครัวซุ่มไปซุ่มมาจนหยุดโรงแรมแห่งนี้ และก็ก็ประทับใจโรงแรมสแตนลี่ย์ เพราะชื่อเสียงของมันที่ว่า "เป็นหนึ่งในที่พักที่ติดอันดับเรื่องผีชุกชุมมากที่สุดของสหรัฐอเมริกา!” และเป็นโรงแรมเดียวกันกับโรงแรมในภาพยนตร์เรื่อง “เดอะ ไชน์นิ่ง”โรงแรมนี้สร้างขึ้นโดยนาย เอฟ.โอ.แสตนลีย์และภรรยาของเขา ฟลอร่า นายแสตนลีย์เป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่งชาวบอสตันที่ร่ำรวยอย่างมหาศาลจากธุรกิจเครื่องจักรไอน้ำยี่ห้อสแตนลี่ย์ เขาได้ใช้ชีวิตปั่นปลายสุดท้ายในการสร้างโรงแรมด้วยเงินทั้งหมดของเขาที่สวนสวยร่มรื่นแถบเอสเตส ปาร์ค ราวปี 1903 จนสร้างเสร็จปี 1909 แล้วก็กลายเป็นสถานที่ตากอากาศติดอันดับอย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยความร่มรื่น บรรยากาศสดชื่นเขียวขจี อากาศก็บริสุทธิ์ ซ้ำยังใกล้อุทยานอีกต่างหาก ผู้คนเลยหลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศ หากแต่หลังจากที่ นายแสตนลีย์และภรรยาถึงแก่กรรม ก็มีรายงานมาว่ามีการพบเห็นนาย แสตนลีย์และภรรยาเดินไปทั่วโรงแรม โดยมีคนเห็นผีแสตนลีย์เดินอยู่ที่ล็อบบี้ บาร์ และห้องเล่นบิลเลียด ขณะที่เชื่อกันว่าวิญญาณของฟลอร่านั่งเล่นเปียโนอยู่ในห้องดนตรี เพราะแขกมักจะได้ยินเสียงบรรเลงเพลงมาจากห้องนั้น และเมื่อพวกเขาเปิดประตูเข้าไปดู ก็เห็นเหมือนแป้นกดบนเปียโนกำลังกระเด้งขึ้นๆ ลงๆ เหมือนมีคนเล่น แต่ว่า ไม่มีใครเลย และพอเข้าไปใกล้ๆ (ดูซิ ยังจะกล้าไปดูใกล้ๆ อีก) ดนตรีก็หยุดลงอย่างฉับพลันนอกจากนี้ยังเสียงเด็กที่เล่นกันตรงกลางโถงทางเดิน จนแขกนอนไม่หลับทั้งคืน และในคืนที่สตีเฟ่น คิง(ห้องที่คิงพักคือห้อง 217 ที่เป็นหมายเลขเดียวที่ปรากฏในภาพยนตร์และเป็นห้องที่โด่งดังที่สุดของโรงแรม) พักนั่นเองเขาได้ฝันร้าย โดยฝันว่าลูกชายวันสามขวบของเขาก็วิ่งเข้ามาในห้อง หน้าตาตื่น กรีดร้องเพราะโดนอะไรบางอย่างไล่ล่าตามหลังมา เขาตกใจตื่นเหงื่อท่วมตัว และเดินมาสูบบุหรี่และเขาก็เห็นเทือกเขาร็อกกี้ที่หน้าต่าง แล้วแล้วนิยายเรื่อง The Shining ก็ถือกำเนิดในที่สุด ส่วนในคลิปคือพวกนักล่าผีที่จู่ๆ มีเสียง “Hello” ดังมาทั้งๆ ที่แถวนั้นไม่มีใครอยู่เลย 


8.The Brown Lady of Raynham Hall 




ในปี 1936 ช่างภาพคนหนึ่งจากนิตยสารวิถีชนบทได้จับภาพผีตัวหนึ่งที่เดินลงบันไดอย่างรวดเร็ว ในคฤหาสน์เรย์แฮม ในนอร์โฟล์ค ประเทศอังกฤษ และภาพใบนี้ได้กลายเป็นภาพผีที่มีชื่อเสียงของโลกและสถานที่ที่ถ่ายรูปผีได้ก็ได้กลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียงเรื่องผีสิงของประเทศอังกฤษในเวลาต่อมา คฤหาสน์เรย์แฮมขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านที่สวยที่สุดและใหญ่ในในนอร์โฟล์ค เป็นที่อยู่อาศัยของผีที่เรียกว่า “สุภาพสตรีสีน้ำตาล” ว่ากันว่าผีตนนี้ก็คือ สุภาพสตรีโดโรที ทาวน์เชนด์ ซึ่งเป็นน้องสาวของเซอร์โรเบิร์ต วอลโพล รัฐบุรุษแห่งสหราชอาณาจักรและถือเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของสหราชอาณาจักร ต่อมาเธอก็แต่งงานกับชาร์ลล์ ทาวน์เชนด์ เมื่อปี 1713 และเสียชีวิตอย่างลึกลับในปี 1726 มีข่าวลื่อว่าเธอถูกสามีทรมานและกักขังในอุโมงค์ลับมานานหลายปี ก่อนที่เธอจะตาย จากนั้นเป็นต้นมาก็มีคนพบเห็นผีตัวหนึ่งที่รูปร่างคล้ายกับเธอสวมชุดสีน้ำตาลและหายตัวไปอย่างรวดเร็ว และเธอมักปรากฏในห้องโถงนี้อยู่เป็นประจำ ตัวอย่างของผู้พบเห็นก็เช่นในต้นศตวรรษที่ 19 กษัตริย์จอร์จที่ 4 ได้เห็นเธอในขณะที่เขาอยู่ที่ห้องโถง เธอสวมชุดสีน้ำตาลและใบหน้าของเธอซืดและผมยุ่งเหยิง , ในปี 1835 ผู้พันลอฟตัสได้มาในคฤหาสน์แห่งนี้ในช่วงวันหยุดคริสต์มาส เขาเห็นเธอยืนอยู่ห้องโถงเธอสวมชุดสีน้ำตาลและผิวซีดและดวงตาที่ดำมืดหน้ากลัว เขาได้บอกกับคนอื่นๆ ในสิ่งที่เขาเห็นและได้ให้ศิลปินวาดภาพของสตรีสีน้ำตาล(และเธอเป็นที่รู้จักตอนนี้)และปัจจุบันภาพนี้ได้ถูกแขวนในห้องโถงที่เธอปรากฏตัวอยู่ ไม่กี่ปีต่อมานักประพันธ์ผู้หนึ่ง ได้มาในคฤหาสน์แห่งนี้และเขาพยายามจะพบเธอหากแต่วันแรกเธอไม่ได้ปรากฏตัวให้เขาเห็น จนกระทั้งวันต่อมาเขาเดินลงห้องโถงด้านบนโดยมีเพื่อนสองคนไปด้วย และนั้นเขาก็พบผู้หญิงสีน้ำตาล เธอถือโคมไฟและเธอก็ยิงฟันใส่พวกเขาอย่างน่ากลัว ก่อนที่จะหายไป “สุภาพสตรีสีน้ำตาล” ยังคงเป็นผีที่ปรากฏต่อสายตาของผู้คนมาหลายศตวรรษ อย่างไรก็ตามการพบเห็นเธอที่โดดเด่นคือวันที่ 19 กันยายน 1936 นั้นคือช่วงที่มีการถ่ายรูปของเธอนั่นเอง 


7.Princess Knight Catue 




หากคุณมีเงินสัก 2,750,000 ล้านปอนด์ คนอยากไปซื้ออะไร เราขอแนะนำให้คุณเป็นเจ้าของบ้าน Clifton Hall ที่เมืองนอติงแฮมเชอ ประเทศอังกฤษแห่งนี้ มันเป็นบ้านหลังใหญ่ที่ประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 เคยเป็นทั้งอพาร์ทเมนท์และโรงเรียน ก่อนที่นักธุรกิจพันล้านนายอันวา ราชิด วัย 32 ปี ได้ซื้อบ้านหลังนี้เอาไว้เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยส่วนตัว โดยตัวเขา กับภรรยาและลูกสาวอายุ3ขวบและ5ขวบและลูกชายตัวน้อยๆวัย18เดือนอีก1คน เป็น5ชีวิตได้ย้ายอาศัยมาอยู่บ้านหลังนี้ ซึ่งแรกๆ มันเป็นบ้านที่สวยงามมากและเพียบพร้อมด้วย 17 ห้องนอน 10 ห้องน้ำ 10 ห้องรับแขก มีทั้งโรงยิมและโรงภาพยนตร์ส่วนตัว และผีสิง!! เพราะพวกเขาเหล่านั้นโดนผีหลอกตั้งแต่วันแรกคืนแรกที่ย้ายเข้าไป เมื่อมีเสียงดังมาจากชั้นบนถามว่า"มีใครอยู่บ้างไหม"นายอันวาคิดว่าหูคงอาจจะแว่วไปเลยไม่ได้สนใจ อีก2นาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงนั้นอีก นายอันวา รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนตรวจดูประตูหน้าต่างก็ปิดล็อคไว้หมด ไม่มีร่องรอยของคนปรากฏอยู่เลยต่อมาในตอนตี 5 ของเช้าวันหนึ่งภรรยาของนายอัลวานาง Nabila ได้ตื่นขึ้นมาชงนมให้ลูกชาย นางเหลือบไปเห็นลูกสาวคนหนึ่งนั่งดูทีวีอยู่ นางเรียกเท่าไหร่ๆลูกสาวก็ไม่หันมาตอบ นางก็เลยคิดว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน นางเลยวิ่งขึ้นไปที่ห้องลูกสาวปรากฏว่าลูกสาวทั้งสองคนนอนหลับอยู่ในห้องนอนและแล้วความอดทนของครอบครัวนี้ก็สิ้นสุดลง เมื่อพบว่ามีเลือดแห้งมีกลิ่นเหม็นติดอยู่ที่ผ้าห่มของลูกชายตัวน้อยครอบครัวนี้ก็เลยต้องย้ายออกจากบ้านผีสิงไปในที่สุด ปัจจุบันบ้านหลังนี้ถูกขึ้นบัญชีขายในราคาเพียง 2,750,000 ล้านปอนด์ 

6.Chloe and Myrtles Plantation 




มีสถานที่แห่งหนึ่งที่ได้รับขนานนามว่าโรงแรมผีดุที่สุดในอเมริกา นั่นก็คือ โรงแรม เมอร์เทิลส์แพลนเทชั่น ในรัฐหลุยเซียน่า(Highway 61 St. Francisville, LA)โรงแรมกลางไร่ เป็นบ้านเก่ายุคอาณานิคม สมัยศตวรรษที่ 18 สร้างในปี 1796ตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งในสถานที่แห่งนี้มีทาสคนหนึ่งชื่อโคลอี้ที่ชอบแอบฟังเจ้านายเขาคุยกัน วันหนึ่งเธอถูกทำโทษโดยการตัดใบหูข้างหนึ่งของเธอ จนเกิดความแค้นเธอเลยอบเค้กวันเกิดโดยใส่ใบยี่โกซึ่งเป็นพืชมีพิษและให้ครอบครัวของนายจ้างกิน จนเป็นเหตุทำให้ภรรยาและบุตรสาวสองคนตายอย่างทรมานในไม่กี่วันต่อมา ส่วนโคลอี้ก็หนีจากบ้านและถูกฆ่าตัวตายโดยการโดดลงในแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ในเวลาต่อมา ทำให้สามีเจ้าของบ้านเสียใจต่อการจากไปของภรรยามากเขาเลยปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้านอย่างสวยงาม ก่อนจะอพยพไปนิวออร์ลีน(บางคนบอกว่าไม่มีรายงานว่าทาสโคลอี้นี้มีจริงและลูกสาวที่ว่าตายเพราะจากกินเค้กนั้นยังคงมีชีวิตอยู่)จากนั้นไร่เมอร์เทิลส์ถูกเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆ พร้อมด้วยข่าวการฆาตกรรมที่ซับซ้อนและจำนวนคนที่ถูกฆ่าในบ้านหลังนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติมมากขึ้นจนไม่รู้อันไหนจริง ไม่จริง บ้างก็ว่าเคยมีทาสผิวดำตายในที่แห่งนี้จำนวนมาก บางคนก็ว่าที่นี้เคยเป็นสุสานของพวกอินเดียแดง บ้านหลังนี้ก็ได้เป็นโรงแรมที่มีรายงานปรากฏการณ์วิญญาณอยู่เสมอ เป็นต้นว่า แขกที่มาพักมักจะเจอกับเสียงแปลกๆอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นเสียงฝีเท้าที่ปราศจากตัว เสียงลากโซ่ตรวนของทาสบางคน บริเวณทางเดินที่เคยมีคนเห็นเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชายวิ่งเล่นกันในยามดึก เสียงเปียนโนที่ดังขึ้นโดยปราศจากคนเล่น คนเฝ้าประตูโรงแรมเคยเห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวในเวลากลางวันแสกๆเดินทะลุประตูเข้าไปโดยเขาไม่ทันจะเปิดประตูให้ เตียงนอนที่ผู้มาพักเล่าว่ามีหญิงผิวดำมาชะโงกหน้าอยู่ข้างเตียง หน้าต่างที่มีผู้พบเห็นเด็กผู้หญิงใส่ชุดนอนลอยอยู่ข้างนอกเอามือป้องหน้ามองเข้ามาข้างใน และโชคดีเมื่อถ่ายรูปอาจมีภาพรางๆของใครก็ไม่รู้ติดมาด้วย ฯลฯปัจจุบันโรงแรมแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องผีสิงที่บริการแย่มาก เพราะห้องพักไม่มีน้ำอุ่นให้อาบ สภาพแวดล้อมก็น่ากลัว แทนที่จะอยู่ริมทะเลหรือมีวิวดีๆสวยงามแบบโรงแรมทั่วไป อีกทั้งราคาประมาณ 9,500 บาท มีเพียง 11 เตียงเท่านั้น แต่มันก็ได้รับความนิยมจากแขกมาใช้บริการเสมอ(มีทัวร์ประวัติศาสตร์ด้วยนะ) 


5.Balete Drive 




โอ้! ผีฟิลิปปินส์! เบื่อผียุโรปแล้วเนอะ คราวนี้มาดูผีในเอเชียดีกว่า ผีตนนี้อยู่ในพื้นที่บริเวณ Balete Drive, นิวมะลิลา , เมืองเกซอน , ฟิลิปปินส์ ซึ่งพื้นที่แห่งนี้เรียกได้ว่าพื้นที่ต้องสาปเลยทีเดียว เพราะที่นี้เต็มไปด้วยเรื่องผีมากมาย เช่น ต้นไทรคำสาป, บ้านผีสิง(สร้างตั้งแต่ยุคสเปน 1800) และที่น่ากลัวที่สุดคือผีที่ปรากฏที่กลางถนนและสร้างความหายนะแก่ผู้คน นั่นก็คือหญิงในชุดขาวที่ตำนานเล่าว่าเธอถูกข่มขืนและฆ่าโดยทหารญี่ปุ่นในสงครามโลก โดยเธอมักปรากฏตัวในรูปของผู้หญิงใส่ชุดสีขาว ผมดำยาวไร้หน้า และยืนเลือดท่วมอยู่กลางถนนตอนกลางคืน จนมีคำแนะนำว่าให้ผุ้ขับขี่หลีกเลี่ยงถนนในเวลากลางคืนโดยเฉพาะหากมีคนอยู่ในรถคนเดียว หากจำเป็นก็อย่ามองด้านหลังที่กระจก ไม่งั้นผีจะขึ้นรถในสภาพเลือดท่วม และสร้างหายนะกับผู้ขับขี่ 


4.Resurrection Mary 




หากคุณกำลังเดินทางในภาคตะวันออกเฉียงใต้เหนือของ Archer Lane ระหว่าง Willowbrook Ballroom และ สุสานฟื้นคืนชีพ(Resurrection Cemetery) อิลลินอยด์ ชิคาโก ล่ะก็ คุณอย่าจอดรถหญิงสาวนักโบกเด็ดขาด ยิ่งหญิงสาวคนนั้นมีผมสีบลอนด์อ่อนและตาสีฟ้าใส่ชุดสีขาวละก็ยิ่งอย่าให้ขึ้นเด็ดขาด(มีรายงานว่าเธออาจสวมผ้าพันคอและกระเป๋าคลัชขนาดเล็กและไม่พูดไม่จา) เพราะเธอเป็นผีที่ตายมานานตั้งแต่ผี 1930 แต่หากคุณอยากลองของก็ลองพาเธอขึ้นบนรถดู เธอจะบอกว่าให้ไปลงสุสานฟื้นคืนชีพ)ซึ่งอยู่ข้างหน้าและเมื่อสักพักเธอจะหายไปจากเบาะท้ายรถอย่างไร้ร่องรอยเมื่อถึงจุดหมาย(ผ่านหรือใกล้ถึง บางทีเธออาจบอกให้จอดรถเพื่อให้เธอลง และหายไปเมื่อถึงป่าช้า)Resurrection Mary หรือแมรี่คืนชีพ เป็นผีที่ชื่อแมรี่ที่อยู่ในสุสานคืนชีพของพื้นที่ในชิคาโกที่เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องผีที่เป็นสาวนักโบกแล้วหายไปที่เบาะหลังรถที่เธออาศัย เธอมักปรากฏในช่วงทศวรรษที่ 1930 ว่ากันว่าอดีตเธอเป็นหญิงวัยรุ่นชอบเต้นกับแฟนที่บอลรูมและเธอก็ถูกฆ่าในคืนฤดูหนาวพ่อแม่ของเธอเสียใจมากเลยฝังเธอในสุสานฟื้นคืนชีพ ในชุดเต้นที่สวยงาม หรือบางตำนานก็เชื่อว่าเป็นสาวที่ตายเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ในปี 1934 


3.Flying Dutchman 




ในปี 1641 กัปตัน Van Der Decken ได้สาบานในแหลมกู๊ด โฮป ในในขณะที่พายุฝนกระหน่ำจนเรือที่เขาแล่นมานั้นใกลอัปปาง ว่า “ข้าจะวนเวียนอยู่บริเวณแหลมนี้ ตราบฟ้าดินสลาย” และนี้คือจุดเริ่มต้นของเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมน เรือปีศาจที่จะร่อนเร่ไปตามน่านน้ำทั่วโลก แต่มันมักจะมาปรากฏตัวให้ผู้คนได้บ่อยในบริเวณ แหลมกู๊ด โฮป จากรายงานพบเห็นว่ากันว่ามันเป็นเรือขนาดใหญ่น่ากลัว มีแสงไฟสีแดงเรืองที่น่ากลัวออกมาจากเรือและมีกัปตันเรือผู้ซึ่งแต่งกายแบบยุคสมัยเก่ายืนคุมเรืออยู่ พร้อมกับส่งเสียงอันโหยหวนน่าขนหัวลุกออกมาเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนปรากฏให้ผู้คนเห็นมานานหลายศตวรรษ มีผู้คนได้พบเห็นหลายคนและเมื่อผู้ใดพบเห็นล้วนนำหายนะมาสู่คนที่พบเห็นทั้งสิ้น เช่น ในปี ค.ศ. 1881 คนประจำเรือของพระเจ้าจอร์จที่ 5 ได้เห็นเรือลำใหญ่ลึกลับปรากฏขึ้นทางด้านหัวเรือเมื่อเวลา 4:00 AM และหลังจากนั้นไม่กี่วัน คนประจำเรือคนนั้นก็พลัดตกเสากระโดงเรือตายคาที่ ทุกวันนี้ก็ยังมีคนกล่าวอ้างอยู่เสมอว่าเห็นเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนยังคงรอนแรมอยู่เดียวดายกลางทะเลด้วยรูปลักษณ์อันเศร้าโศกและสยดสยองอยู่ และ ริชาร์ด วากเนอร์ คีตกวีชื่อก้องโลกได้อาศัย ตำนานปีศาจนี้แต่งอุปรากรที่มีชื่อว่า Der Fliegende Hollander 

2.Abraham Lincoln 




ในฤดูร้อนปี ค.ศ. 1865 อับราฮัม ลิงคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา เดินทางไปชมละครกับภรรยาแล้วถูกลอบสังหารจากชาวใต้หัวรุนแรง นามว่า จอห์น บูธ ผู้ซึ่งโกรธแค้นประธานาธิบดีลินคอล์นตั้งแต่สมัยสงครามการเมืองสหรัฐอเมริกา จอห์น บูธ ถูกตำรวจไล่ล่าและถูกสังหารในโรงเก็บของโดยมีเงื่อนปมว่าการสังหารบูธในครั้งนี้อาจเป็นการฆ่าตัดตอน เพื่อไม่ให้สืบสาวถึงผู้บงการตัวจริง.ว่ากันว่า ลินคอล์นเคยเป็นคนทรงซึ่งติดต่อกับวิญญาณคนตายได้ วิญญาณนั้นเองที่บอกให้เขาให้ปลดปล่อยทาสในภาคใต้ เขาปฏิบัติตามคำแนะนำนั้นจนเป็นจุดเริ่มต้นสงครามกลางเมือง และเมื่อเขาตายลงวิญญาณเขายังไม่ไปสู่สุขคติเพราะใจเขายังยึดติดอยู่ วิญญาณของเขาเลยวนเวียนอยู่บนโลกนี้ค.ศ. 1816 แมรี่ ลินคอล์นเคยไปพบช่างถ่ายภาพรูปวิญญาณชื่อมัมเลอร์ เธอขอให้เขาถ่ายรูปเธอกลับรูปวิญญาณของสามีที่ตายไปแล้ว เมื่อถ่ายภาพของเธอปรากฏว่ามีภาพผีอับราฮัมยืนอยู่ข้างหลังของเธอ แต่ทว่าภายหลังมัมเลอร์ถูกกล่าวหาว่าเป็นหลวกหลวงต้มตุ๋น และภาพบางภาพปรากฏว่าเป็นของปลอม และภายหลังต่อมา นางลินคอล์นกลับเป็นคนวิกลจริตอย่างรุนแรง เพราะความสูญเสียสามีนอกจากนี้ยังมีการรายงานการปรากฏตัวของวิญญาณลินคอล์นในทำเนียบขาวเป็นระยะ เช่น- สมเด็จพระราชินีเฮล์มมิน่าแห่งเนเธอร์แลนด์เคยประทับทำเนียบขาว เคยได้ยินเสียเคาะประตูห้องบรรทม เมื่อเปิดดูเธอถึงกลับล้มทั้งยืนเมื่อทอดพระเนตรเห็นร่างประธานาธิบดีลินคอล์นยืนอยู่ที่นั้น- ประธานาธิบดีรูลเวลท์แม้ไม่เคยพบวิญญาณของประธานธิบดี แต่ท่านเล่าว่าในขณะที่เขาอยู่ลำพังเพียงคนเดียวในห้องสีฟ้า ท่านมักรู้สึกว่ามีวิญญาณของลินคอล์นวนเวียนอยู่ที่นั้น- สาวใช้เคยเล่าให้ภรรยาประธานาธิบดีรูสเวลท์ฟังว่าเคยเห็นวิญญาณลินคอล์นให้ห้องของเขาโดยเห็นท่านนั่งขอบเตียงกำลังถอดรองเท้าบูธออก- ประธานาธิบดีแฮรี่ เอช ทรูแมนเล่าหลายครั้งว่าท่านมักตกใจตื่นเพราะเสียงเคาะประตูห้องนอนในทำเนียบขาว แต่ทรูแมนไม่เคยเห็นกับตาเหมือนสมเด็จพระราชินีเฮล์มมิน่าเท่านั้นเอง 

1.Anne Boleyn 




หอคอยแห่งลอนดอน เป็นพระราชวังหลวงและป้อมปราการตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอนในอังกฤษ ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ผีสิงที่ดุที่สุดในโลก โดยส่วนที่น่ากลัวที่สุดคือตัวหอคอยใช้เป็นป้อมที่จำขังโดยเฉพาะสำหรับนักโทษที่มียศศักดิ์สูง และยังเป็นที่สำหรับประหารชีวิตและทรมาน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีนักโทษหลายต่อหลายคนต้องจบชีวิตลงอย่างน่าสยดสยองในหอคอยแห่งนี้ ทำให้หลายคนเชื่อว่ายังคงมีวิญญาณของเหล่านักโทษยังคงวนเวียนอยู่ในหอคอยดังกล่าว โดยว่ากันว่า ช่วงดึกจะมีทั้งเสียงร้องโหยหวนรวมถึงมีภาพของดวงวิญญาณจำนวนมากล่องลอยขวักไขว่ในบริเวณหอคอยแห่งนี้และผีที่ปรากฏออกมาให้ผู้คนพบเห็นมากที่สุดก็คือแอนน์ โบลีน เป็นพระมเหสีองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ ที่ถูกตั้งข้อหาว่าคบชู้สู่ชาย ถูกจับกุมและส่งไปหอคอยแห่งลอนดอน และถูกประหารด้วยการใช้ดาบบั่นพระเศียร จนเป็นเหตุทำให้ดวงวิญญาณของพระนางก็ยังคงสิงสถิตในอยู่ที่นั่น กล่าวคือ มีทหารยามพบเป็นสตรีสวมผ้าคลุมศีรษะออกมาเดินเล่นริมระเบียงที่ถูกปิดตาย .หากแต่มีลักษณะที่ทรงหิ้วพระเศียรที่ขาดไว้ในพระหัตถ์ ไม่ก็พระนางจะลากโซ่ตรวนในห้องประหารแล้วกรีดร้องเสียงดัง โดยช่วงเวลาราวตี2ของทุกคืนนั้นถือว่าเป็นช่วงเวลาน่ากลัวที่สุดของทหารยามรักษาการณ์ เพราะเวลานั้นคือเวลาที่ตรงกับเวลาของการประหารชีวิตบุคคลต่างๆในราชวงศ์ รวมทั้งกรณีของพระนางแอนน์ โบลีนน์ด้วย ดังนั้นเวลาดังกล่าวจึงเป็นช่วงที่ทหารยามจำนวนไม่น้อยได้พบเห็นร่างของพระนางอย่างชัดเจนในปีค.ศ.1864 ทหารยามนายหนึ่งถึงกับตะลึงเมื่อเห็นหมอกควันสีขาวรวมตัวกันเป็นรูปของสตรีโบราณสวมหมวกโบราณต่อหน้าต่อตา ร่างนั้นมีอาการจางๆหายๆอยู่3ครั้งก่อนที่จะมีสภาพเป็นหญิงโบราณเดินตรงรี่เข้ามาหาเขา เขาจึงตัดสินใจใช้ดาบปลายปืนแทงร่างนั้นเต็มแรง ก่อนที่จะยิงปืนเข้าใส่ร่างนั้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่ปรากฏว่าทุกอย่างก็หายไปและเงียบสงัด อีกจุดหนึ่งในบริเวณพระราชวัง ซึ่งว่ากันว่าเป็นจุดที่มีคนเห็นวิญญาณปรากฏโฉมของแอนน์ โบลีนน์บ่อยๆ ก็คือตรงที่ใกล้ๆกับ โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ แอด วินคิวลา ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ร่างไร้เศียรของแอนน์ โบลีนน์ ถูกนำเอาไปฝังไว้ ณ จุดนั้น ทหารยามจำนวนไม่น้อยมักจะมองเห็นขบวนของเหล่าผีอัศวินจำนวนมากและเลดี้หรือสตรีชั้นสูงจำนวนหนึ่งที่แต่งกายในชุดโบราณสมัยทิวดอร์ พากันเดินหาที่นั่งตามม้ายาวนั่งแบบที่เห็นกันจนเจนตาตามโบสถ์ และที่น่ากลัวมากก็คือผู้นำขบวนก็คือสตรีที่ดูยังไงๆก็คล้ายแอนน์ โบลีนน์ มากๆ ซึ่งหลังจากนำพลพรรคผีๆมานั่งกันตามที่นั่งในโบสถ์เรียบร้อยแล้วก็ปลีกตัวไปยังแท่นบูชาทันที เมื่อพระนาเดินทางไปถึงแท่นสำคัญนั้น ร่างทุกร่างที่เห็นอยู่เมื่อครู่ก็พลันหายไปจากสายตาทันควัน ปล่อยให้วิหารนั้นเงียบเชียบราวกับป่าช้าอีกครั้ง และจนบัดนี้เหตุการณ์แปลกๆที่ว่านี้ก็ยังมีให้เห็นทุกคืนด้วยเหตุนี้หอคอยลอนดอนจึงดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวที่ชอบเรื่องผีจากทั่วโลก นิยมที่จะเดินทางมาเที่ยวชมหอคอยแห่งนี้จำนวนมากในที่สุด

ที่มา :